เป็นการคิดที่ต้องดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนเพื่อช่วยในการคิดนั้นประสบผลสำเร็จตามความมุ่งหมายของการคิด
แต่ละกระบวนการคิดจะประกอบไปด้วยขั้นตอนง่ายๆ
และในแต่ละขั้นตอนจำเป็นต้องอาศัยทักษะการคิด หรือ ลักษณะการคิดจำนวนมาก
สมรรถนะทั้ง 7 ด้านของเด็กปฐมวัย
สมรรถนะ (Competency) คือพฤติกรรมบ่งชี้ของแต่ละวัย
(ช่วงอายุ) ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง (Can do)
ตัวอย่าง : การเคลื่อนไหวและการทรงตัว
3 ปี – วิ่งและหยุดเองได้
4 ปี –
เดินต่อเท้าไปข้างหน้าโดยไม่กางแขน
5 ปี –
เดินต่อเท้าไปข้างหลังโดยไม่กางแขน
ตัวอย่าง : การมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนเด็ก
3 ปี –
พูดคุยและเล่นกับเพื่อนเด็กด้วยกัน
4 ปี – ช่วยเหลือเพื่อน
5 ปี –
ชวนเพื่อนมาเล่นด้วยกันโดยกำหนดสถานที่
ตัวอย่าง : ความทรงจำ
3 ปี – ท่องคำคล้องจองสั้น ๆ ได้
4 ปี – บอกชื่อวันในหนึ่งสัปดาห์
5 ปี –
บอกหมายเลขโทรศัพท์ที่บ้านได้
ตัวอย่าง : การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
3 ปี – แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้
โดยการลองผิดลองถูก เช่น สวมรองเท้า ติดกระดุม
4 ปี – แก้ปัญหาโดยใช้อุปกรณ์ช่วย
เช่น ใช้ไม้เขี่ยสิ่งของที่เอื้อมไม่ถึง
5 ปี – แก้ปัญหาได้หลายวิธี
และรู้จักเลือกวิธีที่เหมาะสม
ความสำคัญ
- ทำให้พ่อแม่
ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็กและครูปฐมวัยมีความรู้ ความเข้าใจ เด็กปฐมวัยมากขึ้น
- สร้างความตระหนักในความสำคัญของการพัฒนาเด็กในช่วงปฐมวัยมากขึ้น
- ชี้แนะแนวทางในการพัฒนาเด็กเป็นเสมือน
“คู่มือช่วยแนะแนว”
- ส่งเสริมวิธีการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยให้ได้คุณภาพดียิ่งขึ้น
- ทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัยมีเป้าหมายร่วมกันและประสานประโยชน์เพื่อเด็กได้ดียิ่งขึ้น
เด็กปฐมวัยทุกคนมีความแตกต่างระหว่างบุคคล พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลเด็ก
ครู อาจารย์ ควรศึกษาพฤติกรรมบ่งชี้ (สมรรถนะ) ด้วยความเข้าใจ
และไม่ควรถือว่าพฤติกรรมบ่งชี้เหล่านี้ เป็นแบบประเมินเด็ก เสมือนลักษณะการสอบตก
สอบได้เด็ดขาด ถ้าพบว่าเด็กบางคนมีพัฒนาการล่าช้าจากช่วงอายุก็ควรปรึกษาแพทย์ต่อไป
สมรรถนะ (Competency)
7 ด้าน 419 ตัวบ่งชี้
คือ พฤติกรรมบ่งชี้ของเด็กแต่ละวัย (ช่วงอายุ)
ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง (Can do)
*
ข้อมูลนำไปใช้ในการสร้างเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัย
ไม่ได้ให้ใช้เพื่อการตัดสินได้หรือตก
สมรรถนะ 7 ด้าน ประกอบด้วย
(1)
การเคลื่อนไหวและสุขภาพทางกาย
(2)
พัฒนาการด้านสังคม
(3)
พัฒนาการด้านอารมณ์
(4)
พัฒนาการด้านการคิดและสติปัญญา
(5)
พัฒนาการด้านภาษา
(6)
พัฒนาการด้านจริยธรรม
(7)
พัฒนาการด้านการสร้างสรรค์
ด้านที่ 1
การเคลื่อนไหวและสุขภาพทางกาย
1.1 การเคลื่อนไหว
1)
การเคลื่อนไหวและการทรงตัวโดยใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่
2)
การเคลื่อนไหวโดยใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก
3) ประสาทสัมผัสการเคลื่อนไหว
1.2 สุขภาวะทางกาย
1) โภชนาการ
2) สมรรถนะทางกาย
3) ความปลอดภัย
4) การช่วยเหลือและการดูแลตนเอง
ด้านที่ 2 พัฒนาการด้านสังคม
1) การมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่
2) การมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนเด็ก
3) พฤติกรรมการปรับตัวด้านสังคม
4) การเห็นคุณค่าของความแตกต่าง
ด้านที่ 3 พัฒนาการทางอารมณ์
1) ความคิดเกี่ยวกับตนเอง
2) การควบคุมอารมณ์ตนเอง
3) สมรรถนะของตนเอง
ด้านที่ 4 พัฒนาการด้านการคิดและสติปัญญา
1) ความจำ
2) การสร้างหรือพัฒนาความคิด (ที่เป็นการคิดเบื้องต้น)
3) ตรรกวิทยา และความมีเหตุผล
4) การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
5) ความตั้งใจจดจ่อ
6) การคิดด้านคณิตศาสตร์
7) ความเข้าใจปรากฏการณ์ และวิธีแสวงหาข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์
8) ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติรอบตัว
9) มลภาวะและการรักษาสิ่งแวดล้อม
10) ความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าเชิงเศรษฐกิจ
ด้านที่ 5 พัฒนาการทางภาษา
1) การเข้าใจและการใช้ภาษา
2) การเข้าใจและการใช้ภาษา (การเรียงคำให้เป็นประโยค)
3) ความเข้าใจและการใช้ภาษา
(ด้านความเข้าใจภาษา)
4) การสื่อความหมาย (ด้านการพูด)
5) การสื่อความหมาย (ด้วยท่าทาง และสัญลักษณ์)
6) การอ่าน
7) การเขียน
ด้านที่ 6 พัฒนาการด้านคุณธรรมจริยธรรม
1) การมีวินัยในตนเอง
2) การพัฒนาเกี่ยวกับความรู้ผิดชอบชั่วดี
ด้านที่ 7 พัฒนาการด้านการสร้างสรรค์
1) ศิลปะการแสดงดนตรีและการเต้นตามดนตรี
2) ศิลปะการแสดง (การละคร)
3) ศิลปะการแสดง (ทัศนศิลป์)
สรุปจากงานวิจัย
จากสมรรถนะจำนวน
419
ข้อ พบว่าเด็กทำได้ในระดับจากง่ายไปหายาก ดังนี้
สมรรถนะ 178
ข้อ อยู่ระดับ ง่าย
สมรรถนะ 52 ข้อ อยู่ระดับ ปานกลาง
สมรรถนะ 189
ข้อ อยู่ระดับ ยาก
ดังนั้นข้อค้นพบเหล่านี้เป็นประเด็นที่บ้านและโรงเรียนจะต้องร่วมมือกันพัฒนาและส่งเสริมเด็กของเราต่อไป
บนพื้นฐานของการจัดประสบการณ์ที่ถูกต้อง
แนวแนะหลักในการปฏิบัติต่อเด็กของผู้ดูแลเด็กครูและอาจารย์ (สกศ., 2553)
1.
รักเด็กเป็นที่ตั้ง
2.
ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
3. เข้าใจกระบวนการและการพัฒนาตามวัยของเด็กอย่างรอบด้าน
4. เข้าใจกระบวนการการเรียนรู้ของเด็กในวัยนี้
5. มีจินตนาการและค้นหาหรือสร้างสื่อเรียนรู้ที่ทำให้เด็กสนใจ
สนุกอยากรู้เพิ่มเติม
6. สนับสนุนเด็กให้แสดงความคิดเห็น
ให้เด็กคิด ให้เด็กมีส่วนร่วม
7. เป็นแบบอย่างที่ดี ไม่ก้าวร้าวทำร้ายทารุณและไม่ละเมิดทางกาย ทางเพศ ทางวาจากับเด็ก
8. ชี้ชวนเด็กให้รู้จักตนเองและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
9. เข้าใจเรื่องความแตกต่างระหว่างเด็ก
10.
สังเกตเด็กและพฤติกรรมเด็กอย่างต่อเนื่อง
11.
สัมพันธ์และสร้างเครือข่ายกับพ่อแม่ผู้ปกครองและผู้คนในชุมชน
12.
คำนึง “ประโยชน์สูงสุด” ที่จะตกอยู่กับเด็กเป็นสำคัญ
วันพฤหัสบดี ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2559 (ไม่มีการเรียนการสอน)
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
- ได้ความรู้เรื่องของทักษะการคิดที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
- นำสมรรถนะทั้ง 7 ด้านของเด็กไปใช้จัดกิจกรรมที่ส่งเสริมให้กับเด็กได้อย่างเหมาะสม
ประเมินผล
ประเมินตนเอง - เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจฟังและจดบันทึกตามที่ครูสอน
ประเมินเพื่อน - เพื่อนทุกคนตั้งใจเรียน ไม่มีการรบกวนหรือแกล้งกันในระหว่างที่ครูสอน
ประเมินอาจารย์ - อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา และตั้งใจสอนอย่างเต็มที่แม้วันนี้อาจารย์จะป่วย มีความเป็นกันเองกับนักศึกษา